ในแวดวงศัลยกรรมปัจจุบันนี้ มีนวัตกรรมเพื่อการแก้ปัญหาผิวหน้ามากมาย ทั้งการการฉีดฟิลเลอร์เพื่อเติมริ้วรอยให้ตื้นขึ้น การยิงเลเซอร์เพื่อกระตุ้นการทำงานของคอลลาเจนใต้ชั้นผิวทำให้ผิวหน้าเนียนกระชับ การลอกผิวให้หน้าใส กำจัดจุดด่างดำ การกรอผิวให้ริ้วรอยและรอยแผลเป็นดูตื้นขึ้น หรือการฉีด โบทูลินั่ม ท็อกซิน เอ เพื่อยับยั้งการเกิดริ้วรอย แต่หากเป็นปัญหาเรื่องผิวขาดความกระชับ หย่อนยาน จนทำให้หนังตาตก หนังเป็นรอบพับเห็นริ้วรอยลึกชัดเจน หรือผิวหย่อนจนเกิดคางสองชั้น วิธีที่จะแก้ปัญหาได้ดีที่สุด ยังคงเป็นการ "ศัลยกรรมยกกระชับใบหน้า" อยู่นั่นเอง
การศัลยกรรมยกกระชับใบหน้า Face Lift Surgery นี้ เป็นกระบวนการศัลยกรรมเพื่อความสวยงามแบบแรก ๆ ที่ได้เปรียบกว่าในเรื่องของผู้ที่มีปัญหาผิวหย่อนคล้อยลงตามอายุ เพราะสามารถแก้ปัญหาได้อย่างตรงจุด และเห็นผลที่ดี คือผิวหน้าดูตึงขึ้น ไม่คล้อยห้อยลงตามแรงโน้มถ่วงของโลกเช่นเดิม ว่าแล้วเรามาทำความรู้จักการศัลยกรรมยกกระชับใบหน้าให้มากกว่านี้กันดีกว่า
.
ปัญหาผิวหน้าเช่นไรที่แก้ไขได้ด้วยการศัลยกรรมยกกระชับใบหน้า
-
ผิวหน้าหย่อนคล้อยลงตรงส่วนกลางใบหน้า
-
หนังตาเหี่ยวและรอยพับลึก หรือหนังตาเหี่ยวคล้อยลงมาทับรอยพับที่เปลือกตา
-
ร่องลึกข้างแก้มจากปลายจมูกไปยังมุมปาก ซึ่งเกิดจากผิวทั่วทั้งใบหน้าหย่อนคล้อย
-
ไขมันบนผิวหน้าที่ห้อยย้อยลง หรือ อยู่ผิดตำแหน่ง
-
ผิวคล้อยลงร่วมกับไขมันสะสมที่ใบหน้า ทำให้ไหลลงมาใต้คาง และดูเป็นคนมีคางสองชั้น ซึ่งเกิดขึ้นได้แม้ในรายที่มีน้ำหนักปกติ
.
การเตรียมตัวก่อนเข้ารับการศัลยกรรมยกกระชับใบหน้า
เพื่อการเตรียมตัวที่ดีในการเข้ารับการผ่าตัด ศัลยแพทย์จะแนะนำให้คุณงดอาหาร ยา และพฤติกรรมบางอย่าง ที่จะส่งผลต่อการไหลเวียนของเลือดและการรักษาตัวของบาดแผล รวมทั้งสอบประวัติการใช้ยาของคุณด้วย
-
งดการใช้ แอสไพริน ยาแก้อักเสบชนิดไม่ผสมสเตียรอยด์ และยาละลายลิ่มเลือด ก่อนเข้ารับการผ่าตัด 2 สัปดาห์ เนื่องจากยาเหล่านี้กระตุ้นการให้เลือดไหลได้ดี
-
งดการรับประทานอาหารเสริมอย่าง วิตามินอี โอเมก้า3 ใบกิงโกะ และชาเขียว เพราะสามารถเพิ่มอัตราการไหลของเลือดได้เช่นกัน ซึ่งส่งผลไม่ดีกับบาดแผลทั้งระหว่างและหลังการผ่าตัด แต่ให้เสริมด้วยการสมุนไพรอย่างอาร์นิก้า และบรอมีเลน ซึ่งเป็นสารสกัดจากสับปะรด อันจะช่วยลดอาการช้ำบวมของแผลหลังผ่าตัดได้
-
งดบุหรี่ เนื่องจากสารนิโคตินในทำให้อัตราออกซิเจนในเส้นเลือดต่ำลง ส่งผลให้แผลหายช้า และอาจเกิดอาการเนื้อตายตามมา
อย่างไรก็ตาม หากคุณรับประทานยาที่มีความเสี่ยงใด ๆ อยู่ อย่าเพิ่งหยุดยาเองโดยกระทันหัน แต่ให้ปรึกษาศัลยแพทย์ของคุณก่อนเสมอ
.
กระบวนการศัลยกรรมยกกระชับใบหน้า
การปรึกษากับศัลยแพทย์ตกแต่งเป็นสิ่งที่คุณต้องทำเป็นอันดับหนึ่ง ก่อนตัดสินใจว่าต้องการผ่าตัดดึงผิวหน้าจริงหรือไม่ เมื่อตัดสินใจแล้ว ศัลยแพทย์จึงดูรูปหน้า ความยืดหยุ่นของผิว โครงหน้า และลักษณะปัญหาของคุณ เพื่อพิจารณารูปแบบการศัลยกรรมผ่าตัดเป็นลำดับถัดไป
-
การใช้ยาชา การผ่าตัดเพื่อดึงผิวหน้าเฉพาะจุดมักใช้ยาระงับประสาทอย่างอ่อน (sedative) ร่วมกับยาชาเฉพาะจุด (local anesthesia) และการใช้ยาชาอย่างอ่อนผ่านหลอดเลือดดำ (mild intravenous anesthesia) แต่ในบางกรณีแพทย์อาจเลือกใช้เพียงยาชาเฉพาะจุด หรือยาสลบ (general anesthesia) ก็ได้
-
การผ่าตัด รอยผ่าตัดจะอยู่ที่บริเวณด้านหน้าและหลังใบหู ซึ่งอาจเลยไปถึงแนวไรผมด้วยก็ได้ โดยในกรณีเช่นนี้ ศัลยแพทย์จะดูความเหมาะสมให้แผลอยู่ที่บริเวณรอยพับตามธรรมชาติของผิวหนัง เพื่อความกลมกลืนเป็นธรรมชาติ ส่วนในผู้ป่วยเพศชายนั้น รอยผ่าตัดอาจอยู่ที่แนวไรเครา
-
การดึงกระชับผิวหน้า เมื่อลงมือผ่าตัดแล้วกระบวนการดึงกระชับใบหน้าก็เริ่มต้นขึ้น ชั้นผิวส่วนต่าง ๆ ของผิวหน้าจะถูกทำให้ตึงขึ้น ผิวหนังส่วนเกินจะถูกตัดออกไป รวมทั้งไขมันบางส่วนอาจถูกดูดออกไปด้วยกระบวนการดูดไขมัน ในบางกรณีผิวหนังและเนื้อเยื่อกล้ามเนื้อจะได้รับการจัดแต่งใหม่ ชั้นกล้ามเนื้อจะถูกจัดแต่งใหม่ให้ตึงขึ้น โดยจะทำเป็นไปพร้อม ๆ กับการดึงผิวหนัง หรือทำแยกชั้นกันก็ได้ จากนั้นจึงเย็บปิดแผลด้วยไหมหรือไหมละลาย และพันผ้าพันแผล